ร่วมเผยแพร่ข้อมูลภาพลักษณะลามก อนาจารส่งต่ออีเมล์
การนำภาพหรือสื่อที่มีลักษณะลามก อนาจาร นำขึ้นสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความพร้อมรูป หรือการส่งผ่านทางเมล์ หรือการส่งต่อเมล์ (forward)
มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1)(2) (3) หรือ (4) |
ไม่นำภาพที่มีลักษณะอนาจาร ทั้งในลักษณะภาพเดี่ยว หรือภาพหมู่ที่มีลักษณะจงใจให้เห็นส่วนสงวนของร่างกาย หรือส่อไปในทางเพศ ไปเผยแพร่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การนำภาพของคนอื่นเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ทำให้เจ้าของภาพเกิดความเสียหาย อับอายผู้เผยแพร่ ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
หมายเหตุ
เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ "การครอบครอง" อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม
แม้ว่าการส่งข้อความ ภาพใด จากเครื่องสู่เครื่องจากบุคคลถึงบุคคลสามารถกระทำได้ถือเป็นเรื่องการติดต่อสื่อสารกันธรรมดา ไม่เป็นความผิด แต่หากการกระทำนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่กระจายออกไปสู่คน หรือกลุ่มคนอื่นในวงกว้าง นำมาซึ่งความเสียหายทั้งส่วนบุคคล และกลุ่มคน หรือระบบ ผู้เผยแพร่ข้อมูลอาจเข้าข่ายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย
แพร่ภาพ"บุ๋ม" ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ทางอีเมล์
"บุ๋ม" ปนัดดา วงศ์ผู้ดีแจ้งความตำรวจ ปคม. เพื่อให้ติดตามจับมือแพร่ภาพลามกของตัวเองส่งทาง อีเมล และติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ที่นำเข้าและส่งภาพลามกอนาจารทางอีเมล หลังจากที่เคยเดินทางเข้ามาร้องทุกข์ไว้เมื่อปีที่แล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มี.ค.53 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.ปนัดดา หรือบุ๋ม วงศ์ผู้ดี อายุ 33 ปี อดีตนางสาวไทยและพิธีกรชื่อดัง เข้าพบ พ.ต.อ.ศรายุทธ พูลธัญญะ รอง ผบก.ปคม. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เอาภาพถ่ายที่ น.ส.ปนัดดา เคยถ่ายแบบไว้กับนิตยสารฉบับหนึ่งไปโพสต์รวมกับภาพลามกอนาจาร แล้วส่งต่อทางอีเมลเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
น.ส.ปนัดดา เปิดเผยว่า ภาพที่มีการส่งต่อเป็นฟอร์เวิร์ดเมลนั้นมีภาพตนที่เคยถ่ายแบบไว้ และนำมาประกอบกับภาพลามกอนาจารอีก 3 ภาพ ซึ่งเชื่อว่ามาจากภาพยนตร์ลามกอนาจาร ในเรื่องนี้ตนทราบมาตั้งแต่ 5 ปีก่อน และเคยเข้าแจ้งความไว้ที่ บก.ปดส.มาแล้วเมื่อประมาณเดือน มิ.ย.52 ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้จะยุติไปเอง แต่กลับพบว่ายังมีการส่งต่อกันอยู่ ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ที่นำภาพดังกล่าวมาส่งต่อ และขอให้ยุติการเผยแพร่ เพราะทำให้ตนเสียหาย และขอยืนยันว่าไม่คิดอยากดังด้วยเรื่องแบบนี้ เพราะตนก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว
น.ส.ปนัดดา กล่าวว่า หลังจากที่พ่อ-แม่ทราบเรื่องท่านก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะใช้นามสกุล "วงศ์ผู้ดี" จึงทำให้เสียหายต่อวงศ์ตระกูลเมื่อมีข่าวแบบนี้ออกไปคนทั่วไปก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็น ตนจึงอยากขอให้ผู้ที่มีภาพดังกล่าว ยุติการส่งต่อหรือเผยแพร่ภาพต่อไป สำหรับผู้ที่ลงมือทำนั้น ตนเชื่อว่าเขาทำแค่ต้องการความสนุกมากกว่าที่มีเจตนาอย่างอื่น เรื่องนี้คงต้องให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอยากขอร้องไปยังผู้ที่กระทำเช่นนี้ ไม่ใช่แค่กรณีของตนเท่านั้นกับดาราคนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน จึงขอร้องว่าอย่าทำและอย่าส่งต่อภาพ เหล่านี้อีก
ด้าน พ.ต.อ.ศรายุทธ กล่าวว่า กรณีนี้ทางผู้เสียหายเคยเข้ามาร้องทุกข์ไว้แล้วเมื่อครั้งที่เป็นหน่วยงาน บก.ปดส.ที่เดิมมีอำนาจการสืบสวนสอบสวน แต่มาภายหลังหน่วยงานได้มีการเปลี่ยนแปลงตั้ง บก.ปคม.เมื่อวันที่ 7 ก.ย.52 จึงไม่มีอำนาจสอบสวนแล้ว อย่างไรก็ดีเมื่อได้รับเรื่องดังกล่าวมาแต่ต้น ก็จะทำเรื่องไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขออนุมัติสอบสวนคดีนี้ สำหรับกรณีนี้ตนได้สอบถามจากชุดสืบสวนก็ทราบว่าได้ดำเนินการตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง และรู้ตัวผู้ที่ส่งฟอร์เวิร์ดเมลครั้งแรกแล้ว อยู่ต่างจังหวัดและเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานะพยาน โดยยังไม่มีการพิจารณาขออนุมัติหมายจับผู้ใด แต่หากภายหลังพบการกระทำความผิดก็พิจารณาดำเนินคดีได้ ส่วนการสืบสวนให้ถึงต้นต่อของผู้ตัดตอภาพและเป็นผู้เผยแพร่คนแรกนั้นเป็นเรื่องยาก ซึ่งต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนต่อไป
"สำหรับผู้ที่ส่งต่อเมลนี้ถือว่ากระทำผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท โดยเข้าข่ายกระทำความผิดข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาอีกด้วย" พ.ต.อ.ศรายุทธ กล่าว
พ.ต.อ.ศรายุทธ กล่าวต่อท้ายว่า จึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่มีภาพดังกล่าวในอีเมลแอดเดรสของตัวเองว่าขอให้ทำลายทิ้ง เพราะหากส่งต่อไปอีกก็จะมีความผิดเช่นเดียวกับผู้ที่เป็นคนเริ่มต้นส่ง ไม่สามารถอ้างได้ว่าตนไม่ได้เป็นผู้ตัดต่อหรือได้รับเมลมาจากใคร เพราะการส่งต่อไปอีกนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ผู้อื่นจะส่ง เพราะตัวเองจะรู้รหัสผ่านหรือพาสเวิร์ดของตัวเองผู้เดียวเท่านั้น และปฏิเสธไม่ได้
อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง พฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2553 10:46:29 น
อ้างอิงจาก : http://www.ryt9.com/s/bmnd/806468
อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์มติชน : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1267607200
นศ.โร่เข้าแจ้งความ รองผอ.โรงเรียน จ.นครพนม ฐานปล่อยภาพโป๊ปลือยทางอินเตอร์เน็ต หลังเลิกคบหาเป็นแฟนกัน
9 ก.ค.53 : นางสาวน้อย นามสมมุติ อายุ 20 ปี นักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดงอุดรธานีได้เดินทางแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดี กับรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.นครพนม ซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่า กรณีนำภาพโป๊เปลือยของตนที่เคยถ่ายเอาไว้ ลงเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตไปทั่วประเทศ ทำให้ได้รับความอับอาย และได้รับความเสียหายด้านชื่อเสียง
น.ส.น้อย เปิดเผยว่าคบหากับ รองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ก่อเหตุ ตั้งแต่ปี 2549 ขณะที่ตัวเองมีอายุ 18 ปี จนกระทั่งมีความสัมพันธุ์ฉันท์สามีภรรยา และมีสัญญากันว่า จะแต่งงานหลังเรียนจบ และระหว่างอยู่ด้วยกันแฟนหนุ่มได้ถ่ายภาพของตนเก็บเอาไว้ ซึ่งไม่คิดว่าจะเสียหาเพราะใกล้ที่จะแต่งงานกันแล้ว
แต่ต่อมาเมื่อปี 2550 รองผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวได้แอบไปแต่งงานกับครูสาว ที่ จังหวัดสกลนคร โดยไม่ยอมเลิกกับตนเอง พร้อมกับขู่ว่าหากไม่มาคบกันอีก จะนำเอาภาพโป๊เปลือยไปประจานให้คนอื่นดู กระทั่งเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2553 มีผู้พบภาพโป๊เปลือยของตนในอินเตอร์เน็ต แม้จะขอให้นำภาพออกจากระบบ ก็ไม่เป็นผล ซึ่งเห็นว่าถูกคุกคามทำให้เสียหายหลายครั้ง จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดี
อ้างอิง : http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=15270
ตำรวจ ปดส. โชว์ผลงานจำกุม 2 ผู้ต้องหาโพสต์ภาพโป๊ ครูสาว จ.นครสวรรค์ เผย แพร่ลงเว็บไซต์
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี หรือ ปดส.แถลงผลการจับกุม นายชูศักดิ์ เสียงระฆัง อายุ 24 ปี และ นายจักรพงษ์ เกาะศิริ อายุ 33 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันโพสต์ภาพโป๊ ลงในอินเทอร์เน็ต หลังมีผู้เสียหายหญิง ซึ่งเป็นข้าราชการครู ในจ.นครสวรรค์ เข้าแจ้งความกับ ปดส. ว่า มีบุคคลใช้รหัสว่า แจ็ค 696 นำภาพโป๊เปลือยโพสต์ลงในเว็บไซต์ดังกล่าว และแพร่หลายในเว็บไซต์ อื่น ๆ โดย นายชูศักดิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ ให้การปฏิเสธไม่ได้เป็นคนโพสต์ภาพ แต่ยอมรับว่า ก่อนหน้าที่จะมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เคยมีภาพโป๊ในเว็บไซต์ แต่เมื่อมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาบังคับใช้ ก็ปิดรับภาพโป๊ไปนานแล้ว ขณะที่ นายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นผู้โพสต์ภาพดังกล่าว จะตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ไม่ได้ให้การใด ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตีราคาประกันตัวไว้ที่ 7 หมื่นบาท/คน ก่อนจะพิจารณาปล่อยตัวต่อไป
(ที่มา ไอเอ็นเอ็น)
ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.2097/2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพุทธพงศ์ ฉลาดธัญกิจ อายุ 34 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพื่อการแจกจ่ายทำให้แพร่หลายซึ่งภาพอันลามกนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเข้าถึงได้
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 51 ระบุความผิดว่า ระหว่างวันที่ 6-29 ต.ค.50 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้บังอาจใส่ความ น.ส.หน่อย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย โดยการโฆษณาด้วยภาพจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเมล์ ผ่านเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นภาพการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างจำเลยกับผู้เสียหาย จำนวน 2 ภาพ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ก.ย.-11 ธ.ค. 50 ต่อเนื่องกัน จำเลยนำภาพการมีเพศสัมพันธ์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นการทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพอันลามกส่งเป็นจดหมายอีเมล์ ผ่านเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ไปยังผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตหลายครั้งหลายคราวต่างกัน ภายหลังผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) และสามารถจับกุมจำเลยเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 51 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 ชุด จำเลยให้การปฏิเสธ เหตุเกิด ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ และ อ.เมืองนครสวรรค์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้เสียหายกับจำเลยเคยคบหาเป็นคนรักกันมาก่อน เคยบันทึกภาพระหว่างการมีเพศสัมพันธ์กันไว้หลายครั้ง แต่เมื่อทั้งสองคนเลิกกัน ฝ่ายชายเกิดความหึงหวง จึงนำภาพที่เคยถ่ายไว้ เผยแพร่ ทางคอมพิวเตอร์ ทั้งที่ในระหว่างจำเลยกับผู้เสียหายคบกันไม่เคยมีภาพดังกล่าวปรากฏมาก่อน รับฟังประกอบกับการถ่ายโอนข้อมูลภาพทั้งหมดที่กระทำภายในคราวเดียวจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของกลาง นอกจากนี้ พยานโจทก์ทุกปากไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน ไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าจะแกล้งเบิกความปรักปรำจำเลย เชื่อว่าภาพในเว็บไซต์เป็นภาพเดียวกับที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของจำเลย และถูกส่งมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังกล่าว ส่วนในคดีแพ่งนั้นศาลเห็นสมควรกำหนดค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายด้วย
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 387 (1) วรรคสอง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (4) (5) ฐานหมิ่นประมาทให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน และฐานเพื่อการจ่ายแจก หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชนทำให้ แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งภาพอันลามก นำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเข้าถึงได้ เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (4) (5) ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน รวมจำคุกจำเลยเป็นเวลา 9 เดือน และให้จำเลยชำระเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 200,000 บาท
อ้างอิงจาก : http://news.sanook.com/crime/crime_332086.php
รวบหนุ่มใหญ่ โพสต์ภาพโป๊อดีตแฟนสาว ลง hi5 (คมชัดลึก)
ศดส.แถลงข่าวจับกุมหนุ่มใหญ่ เจ้าของกิจการโรงหล่อรูปปั้นทองเหลืองย่านคลองหลวง โพสต์ภาพโป๊อดีตแฟนสาวลง hi5 ตามที่มีการแจ้งความ เจ้าตัวรับสารภาพทำไปเพราะแค้นส่วนตัวที่ตีตัวออกห่างไปมีแฟนใหม่
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ต.อ.ชาติชาย วรกุล ผกก.ศดส. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุทิน สวนดอกไม้ สว.ศดส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ศดส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายรังสรรค์ จันทนพิศาล อายุ 54 ปี เจ้าของกิจการโรงหล่อรูปปั้นทองเหลือง อยู่บ้านเลขที่ 70/340 หมุ่ 3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1306/2552 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และนำภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อเดิม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิค หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ,หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาด้วยภาพหรือตัวอักษร ที่ทำให้ปรากฏไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ
สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริษัทนิวไลท์ ห้องเลขที่ 91/50 ถ.พหลโยธิน ต.เชียงรากแก้ว อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบริษัทประกอบกิจการโรงหล่อรูปปั้นทองเหลือง พร้อมของกลาง อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 มม. 1 กระบอก เครื่องกระสุน 22 นัด กล้องวีดีโอ ยี่ห้อโซนี่ 1 เครื่อง แผ่นซีดี 24 แผ่น และเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 2 เครื่อง
พ.ต.อ.ชาติชาย เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย อายุประมาณ 30 ปี เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ศดส. เนื่องจากถูกนายรังสรรค์ซึ่งเคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน แต่ได้เลิกรากันไปแล้ว นำภาพแอบถ่ายขณะ น.ส.น้ำ หลับนอนกับนายรังสรรค์ รวมถึงภาพโป๊เปลือย ไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ด้วยวิธีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิค หรืออีเมล์ ไปให้ผู้เสียหาย รวมถึงเพื่อนฝูงที่รู้จักผู้เสียหาย กับตัวนายรังสรรค์เอง ตลอดจนพนักงานในบริษัทฯ
พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายรังสรรค์ยังนำประวัติของผู้เสียหาย ไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ไฮไฟว์(hi5) ก่อนจะนำรูปดังกล่าวลงไปเผยแพร่ ทำให้ทางบริษัทที่ดูแลเวบไฮไฟว์แจ้งเตือนไปยังผู้เสียหายให้ลบรูปลามกอนาจารดังกล่าวออกไป แต่ฝ่ายผู้เสียหายไม่สามารถเข้าไปลบภาพและข้อมูลดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นคนลงทะเบียนและนำรูปลงไปโพสต์ จึงไม่มีรหัสผ่านเข้าไปแก้ไข ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ น.ส.น้ำเพชร ได้รับความอับอายขายหน้า ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม จึงได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ศดส.
"หลังจากรับแจ้งเราได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับนายรังสรรค์ได้ โดยศาลได้อนุมัติหมายจับในช่วงสายวันนี้(13 พ.ค) เมื่อได้หมายจับแล้วเราก็ส่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้เดินทางไปควบคุมตัวรนายรังสรรค์ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มาดำเนินคดีตามกฏหมาย" ผกก.สดส. กล่าว
จากการสอบสวนนายรังสรรค์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนเผยแพร่ภาพขณะร่วมเพศรวมถึงภาพโป๊เปลือยของ น.ส.น้ำจริง ลงทางอินเทอร์เน็ตจริง ที่ทำลงไปเพราะความแค้นส่วนตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ น.ส.น้ำมาติดต่อซื้อขายสินค้ากับตนบ่อยครั้ง จึงเกิดความสนิทสนม และได้คบหาจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หลังจากคบกันได้ประมาณ 1 ปี น.ส.น้ำ เริ่มตีตัวออกห่าง ไปคบผู้ชายคนใหม่ และบอกเลิกกับตน ตนพยายามง้อขอคืนดีก็ไม่เป็นผล ตนจึงนำภาพที่แอบถ่ายไว้ไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ส่งเมล์ให้ น.ส.น้ำ รวมทั้งเพื่อนฝูงที่รู้จักทั้งหมด
อ้างอิงจาก : http://hilight.kapook.com/view/36852
เป็นประโยชน์มากครับ
ตอบลบพอดีมีเรื่อที่ต้องมาศึกษากรณีการทำผิดพรบ.คอมพิวเตอร์อยู่
ขอบคุณที่มีตัวอย่างประกอบ ทำให้มองภาพได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย