เพิ่มประสิทธิภาพให้ Windows 11

ช่วงเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา  Microsoft ได้ทะยอยปล่อยอัปเดต Windows 11 version 22H2 หรือ Windows 11 2022 Update ให้ผู้ที่ใช้งาน Windows 10 2004 ขึ้นไปหรือผู้ที่ใช้ Windows 11  (version 21H2) ล่าสุดอยู่แล้ว สามารถอัปเดตได้ทันทีผ่านทาง Windows Update Settings (Settings > Update & Security > Windows Update) หรือผ่านทาง Windows Server Update Services (WSUS) ซึ่งถ้าหากตรวจพบว่าใช้ฮาร์ดแวร์ที่ไม่รองรับ ระบบจะหยุดการอัปเดตให้อัตโนมัติทันที ซึ่งในเวอร์ชันนี้มีทั้งการเสริมฟีเจอร์และปรับปรุงด้วยกันหลายส่วน โดยมีจุดเด่นดังนี้

ปรับปรุง File Explorer โดยเพิ่มหน้า Homepage ใหม่ และเพิ่มการรองรับแท็ป อย่างไรก็ตามการใช้งานแท็ป จะสามารถใช้ได้ในเวอร์ชัน build ถัดไป

เพิ่ม Controller Bar ช่วยให้สามารถเลือกเกมส์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเชื่อมต่อกับ Xbox controller

เพิ่ม Smart App Control ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานแอพพลิเคชัน

เพิ่ม Clipchamp แอพพลิเคชันตัดต่อวิดีโอใหม่

ปรับปรุง Windows Snapping ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น มี Snap layout เพื่อรองรับ Touch Navigation และสามารถ Snap Browser Tab หลายหน้าต่างได้

เพิ่ม Suggested Action เมื่อทำการ Copy เช่น สามารถสร้าง Event บน Calendar ได้ทันทีเมื่อ Copy ข้อความที่เป็นวันที่

รองรับการ drag-and-drop ที่ Taskbar เพื่อเปิดแอพพลิเคชัน และเพิ่มการแสดงผล Overflow เมื่อมีการเปิดหลายแอพพลิเคชัน

ปรับปรุง Task Manager ใหม่ ทำงานบน Fluent UI และ WinUI

การ Update ในครั้งนี้ส่งผลดี ในหลายด้าน โดยเฉพาะมีการยกเลิกเงื่อนไขบางประการของระบบที่เคยเป็นปัญหาต่อการทำงานที่ช้าลง แม้ว่าทาง Microsoft จะเคยประกาศในหน้าเว็บ Support แนะนำวิธี optimize ให้ Windows 11 เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่สูงขึ้น โดยระบุว่าให้เข้าไปตั้งค่าปิดฟีเจอร์ Memory Integrity กับ Virtual Machine Platform (VMP) ซึ่งใน Windows 10 และผู้ที่ Update มาเป็น Windows 11 ในช่วงต้น อาจเกิดปัญหาการทำงานค่อนข้างฝืดๆ ซึ่งพอสืบทราบมาก็พบว่าเป็นปัญหาจากสองจุดดังกล่าว  โดยเว็บไซต์ Tom’s Hardware ได้ทดสอบเปรียบเทียบกันระหว่างเปิด-ปิด พบประสิทธิภาพต่างกันเกือบ 10% เลยทีเดียว หากผู้ที่ยังไม่ได้รับการ Update เป็น Windows 11 version 22H2 หรือที่ได้รับการ update เป็น Windows 11 version 22H2 ก็สามารถตรวจสอบทั้งสองจุดนี้ได้ โดยตรวจสอบได้ ดังนี้

ตำแหน่งแรก ฟีเจอร์ MEMORY INTEGRITY

โดยทำการพิมพ์ค้นหา Core isolation ในช่อง Search ของ Taskbar หรือที่ Setting (โดยคลิกขวาบนพื้นที่ของ Desktop)

ที่ส่วน Memory integrity หากสถานะเป็น On ต้องคลิกปิด toggle ให้เป็น Off

จุดที่สอง VIRTUAL MACHINE PLATFORM

พิมพ์ค้นหา Turn Windows features on or off ในช่อง Search ของ Taskbar หรือที่ Setting (โดยคลิกขวาบนพื้นที่ของ Desktop)

จะเกิดหน้าต่างรายการ Windows Features

เลื่อนหารายการ Virtual Machine Platform  ซึ่งจะอยู่ตรงส่วนค่อนข้างมาทางด้านล่าง
หากอยู่ในตำแหน่งเลือกในช่อง check box  ก็ให้คลิกเอาออก แล้วกดยืนยันที่ OK ระบบจะทำการ Restart  ก็เป้นอันจบ

ที่มา Microsoft(1) , Microsoft(2)

ล่าสุดสามารถ ลาก ICON โปรแกรมหรือ Short Cut นำมาวางที่ Taskbar ได้แล้ว