จอสีฟ้ากับวิกฤตการณ์ของเครือข่ายทั่วโลก

 

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2024 เวลา 04.09 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ เกิดเหตุขัดข้องทางระบบเครือข่ายทั่วโลก มีสาเหตุมาจาก Cloud system ของ Microsoft ล่ม ส่งผลให้ธุรกิจและกิจการต่างๆ ที่ใช้ระบบเครือข่าย server ของ windows ผ่าน Cloud system  หยุดทำงานและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อในระบบเครือข่ายเกิดจอสีฟ้า (BSOD : Blue Screen of Death) โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากบริษัทผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยซอฟต์แวร์หลักของโลกแห่งหนึ่งในนามว่า CrowdStrike ทำการอัปเดตระบบที่มีบรรทัดคำสั่งผิดพลาดบน Cloud system ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการเครือข่ายบนระบบปฎิบัติการ Windows  ผ่าน Server ทั่วโลก เกิดอาการจอฟ้า ซึ่ง Microsoft ได้สรุปเบื้องต้นว่า อุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ราว 8 ล้าน 5 แสนเครื่องทั่วโลก ต้องหยุดทำงานหลังได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว (โดยระบบปฏิบัติการ Mac และ Linux รวมถึงเครื่องประเภท Stand Alone ที่ไม่เชื่อมต่อระบบ Server จะไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้)

George Kurtz ซีอีโอของ CrowdStrike แจ้งประกาศอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมาว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ภัยก่อการร้ายหรือการโจมตีทางไซเบอร์ แต่เป็นผลกระทบจากข้อบกพร่องในการอัปเดตระบบป้องกันสำหรับระบบ Windows โดยเฉพาะ ซึ่ง George Kurtz ได้ให้คำแนะนำหน่วยงาน องค์กร หรือกลุ่มธุรกิจผู้ใช้ระบบเครือข่ายออนไลน์ที่พบปัญหาควรปรึกษา ติดต่อ สื่อสารกับตัวแทน CrowdStrike ผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพแอบแฝงเข้ามาโจมตี 

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่งผลให้เครือข่ายภาคราชการ ภาคธุรกิจ หลายประเทศทั่วโลก ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นสายการบินและสนามบินทั่วโลก ธนาคารใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์ สื่อ ศูนย์แจ้งเหตุฉุกเฉิน บริษัทโทรคมนาคม และอื่นๆอีก ดังปรากฏตามข่าว

รายงานจาก CNBC ระบุว่า Microsoft ได้แจ้งให้ลูกค้าระดับองค์กรในสหรัฐฯทราบ เกี่ยวกับความขัดข้องของระบบคลาวด์ Azure และแพลตฟอร์ม Microsoft 365 รวมถึง Teams แม้ว่าปัจจุบันจะได้รับการแก้ไขแล้วในบางภูมิภาค 

สำหรับในประเทศไทย มีผลกระทบทั้ง โรงพยาบาล สายการบิน ตลาดหุ้น การคมนาคมโดยเฉพาะสนามบินทั้ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต ส่งผลให้บางสายการบินมีการดีเลย์ 

เหตุการณ์นี้กระทบตลาดหุ้นทั้งของ CrowdStrike และ  Microsoft ต่างร่วง ลงทั้งคู่

และเหตุการณ์ครั้งนี้แม้จะส่งผลร้ายในระยะเวลาอันสั้นๆ แต่ก็ก่อความเสียหายไปในวงกว้างทั่วโลก หลายส่วนต้องกลับมาพึ่งพาวิธีการทาง Analog ระบบ manual และใช้ทรัพยากรมนุษย์ทดแทน และนี่น่าจะเป็นการแจ้งเตือนครั้งสำคัญที่ผู้ให้บริการเครือข่าย ผู้ใช้บริการระบบปฏิบัติการบนเครือข่าย ต่างต้องมา ทบทวน ถึงมาตรการของความปลอดภัย เพราะหากเกิดเหตุเช่นนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นโดยธรรมชาติของระบบ หรือภัยก่อการร้าย ก็คงส่งผลเสียหายร้ายแรงมากกว่านี้

อ้างอิง
https://www.crowdstrike.com/blog/falcon-update-for-windows-hosts-technical-details/

https://x.com/George_Kurtz

https://www.cnbc.com/2024/07/19/microsoft-crowdstrike-shares-fall-after-major-it-outage